การขาดวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ทำให้เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
- เป็นโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดแดงแบ่งตัวช้าจึงมีขนาดใหญ่ผิดปกติ (Megaloblastic anemia)
- มีลิ้นแดง
- ผิวหนังอักเสบ ซึด ริมฝีปากแตก
- ระบบประสาทผิดปกติ ความจำเสื่อม
- เกิดอารมณ์แปรปวนง่าย
- เบื่ออาหาร
- กระดูกสันหลังเสื่อม เดินเซ
- หากทารกในครรภ์อายุ 2 เดือนมีโฟลิกต่ำจะส่งผลให้เกิดกระดูกสันหลังโก่ง กระดูกไม่ปิด การสร้างสมองผิดปกติ
- การรับประทาน แอสไพริน ยาคุมกำเนิด ยากันชัก (Phenytoin) ยาลดน้ำตาลในเลือด (Metformin) ยาต้านอักเสบ (Sulfasalazine) ยาขับปัสสาวะ (Triamterene) ยานอนหลับ (Barbiturates) ยาแก้แพ้ภูมิ (Methotrexate) ทำให้โฟเลตลดต่ำ
- ผู้ป่วยลำไส้อักเสบ และผู้ที่สูบบุหรี่จะขาดโฟเลต
- จากการศึกษาพบว่า ในช่วยอายุ 40-70 ปี ผู้ที่ดื่มสุราและขาดโฟเลตจะเป็นมะเร็งลำไส้สูงกว่าผู้ที่รับประทานโฟเลตและกรดอะมิโนเมทไธโอนีน
- ไม่มีรายงานพิษจากการรับประทานโฟเลตมากกว่าปริมาณที่แนะนำเพราะโฟเลตละลายน้ำได้ ส่วนที่เหินจึงถูกขับออกพร้อมกับปัสสาวะ อย่างไรก็ตามการรับประทานโฟเลตมากเกินไปจะทำให้ขาดวิตามินบี 12 ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานโฟเลตเกิน 2 เท่าของปริมาณที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
- พบความสัมพันธ์ว่าการที่ร่างกายมีโฟเลตต่ำ ขาดวิตามินบี 12 และบี 6 จะทำให้กรดอะมิโนโฮโมซีสเทอีน (Homocysteine) สูงมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
แหล่งข้อมูล – คู่มืออาหารเสริมฉบับสมบูรณ์
หากร่างกายได้รับโฟเลตจากอาหารไม่เพียงพอ ก็สามารถรับประทานจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบบเจลได้ พร้อมกับได้รับสารอาหารชนิดอื่นครบเพียงพอต่อวัน ด้วย AGEL MIN
[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section]ประโยชน์ของวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ช่วยให้เจริญอาหาร แก้อาการอ่อนเพลีย
- ช่วยป้องกันแผลร้อนในได้
- ช่วยรักษาภาวะซีดหรือโลหิตจาง
- ทำงานออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวด
- ช่วยบำรุงผิวพรรณและสุขภาพ
- ช่วยป้องกันพยาธิในลำไส้และอาการแพ้จากอาหารเป็นพิษ
- ช่วยป้องกันการพิการของเด็กทารกแรกเกิด
- ช่วยในการสร้างน้ำนมของมารดาหลังคลอดบุตร
- ช่วยชะลอให้ผมขาวช้าลง หากรับประทานร่วมกับพาบาและ วิตามินบี 5
- ช่วยลดระดับของกรดอะมิโนโฮโมซิสเทอีนในเลือด
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้
- ช่วยแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้
- เร่งการสลายไขมัน ลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในตับ และในเลือด
- การรับประทานโฟเลต 5 มิลิกรัมต่อวันช่วยลดความดันโลหิตและลดความเสี่ยงของเส้นเลือดในสมองแตก (Stroke)
- เพิ่มประสิทธิภาพของสมอง ความจำระยะสั้น ความคิด การพูด
- ลดการแพ้หอบ หอบหืด มีภูมิคุ้มกันที่ก่ออาการแพ้ (IgE) ในเลือดลดลง
- ช่วยการสร้างสเปิร์มในเพศชาย ในเพศหญิงช่วยให้ไข่แบ่งตัวสมบูรณ์และช่วยการฝังตัวของตัวอ่อน
การขาดวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ทำให้เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
- เป็นโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดแดงแบ่งตัวช้าจึงมีขนาดใหญ่ผิดปกติ (Megaloblastic anemia)
- มีลิ้นแดง
- ผิวหนังอักเสบ ซึด ริมฝีปากแตก
- ระบบประสาทผิดปกติ ความจำเสื่อม
- เกิดอารมณ์แปรปวนง่าย
- เบื่ออาหาร
- กระดูกสันหลังเสื่อม เดินเซ
- หากทารกในครรภ์อายุ 2 เดือนมีโฟลิกต่ำจะส่งผลให้เกิดกระดูกสันหลังโก่ง กระดูกไม่ปิด การสร้างสมองผิดปกติ
- การรับประทาน แอสไพริน ยาคุมกำเนิด ยากันชัก (Phenytoin) ยาลดน้ำตาลในเลือด (Metformin) ยาต้านอักเสบ (Sulfasalazine) ยาขับปัสสาวะ (Triamterene) ยานอนหลับ (Barbiturates) ยาแก้แพ้ภูมิ (Methotrexate) ทำให้โฟเลตลดต่ำ
- ผู้ป่วยลำไส้อักเสบ และผู้ที่สูบบุหรี่จะขาดโฟเลต
- จากการศึกษาพบว่า ในช่วยอายุ 40-70 ปี ผู้ที่ดื่มสุราและขาดโฟเลตจะเป็นมะเร็งลำไส้สูงกว่าผู้ที่รับประทานโฟเลตและกรดอะมิโนเมทไธโอนีน
- ไม่มีรายงานพิษจากการรับประทานโฟเลตมากกว่าปริมาณที่แนะนำเพราะโฟเลตละลายน้ำได้ ส่วนที่เหินจึงถูกขับออกพร้อมกับปัสสาวะ อย่างไรก็ตามการรับประทานโฟเลตมากเกินไปจะทำให้ขาดวิตามินบี 12 ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานโฟเลตเกิน 2 เท่าของปริมาณที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
- พบความสัมพันธ์ว่าการที่ร่างกายมีโฟเลตต่ำ ขาดวิตามินบี 12 และบี 6 จะทำให้กรดอะมิโนโฮโมซีสเทอีน (Homocysteine) สูงมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
แหล่งข้อมูล – คู่มืออาหารเสริมฉบับสมบูรณ์
หากร่างกายได้รับโฟเลตจากอาหารไม่เพียงพอ ก็สามารถรับประทานจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบบเจลได้ พร้อมกับได้รับสารอาหารชนิดอื่นครบเพียงพอต่อวัน ด้วย AGEL MIN
[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section]ตารางแสดงปริมาณโฟเลตที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
อายุ | โฟเลตที่ต้องการ (ไมโครกรัม) |
---|---|
แรกเกิด-6เดือน | 65 |
6 เดือน-1ปี | 80 |
1-3 ปี | 150 |
4-8 ปี | 200 |
9-13 ปี | 300 |
14 ปี | 400 |
สตรีมีครรภ์ | 600 |
สตรีให้นมบุตร | 500 |
จากตารางจะเห็นได้ว่า อาหารธัญพืชที่ผสมโฟเลตจะมีปริมาณเพียงพอที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน หรือรับประทานตับไก่เพียงครึ่งขีด ก็จะได้รับโฟเลตราว 400 ไมโครกรัมซึ่งเพียงพอต่อร่างกายแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเสริมโฟเลต แต่ยังพบการขาดโฟเลตในคนทั่วไป เนื่องจากการรับประทานอาหารไม่ครบถ้วน การตั้งครรภ์ การดูดซึมผิดปกติ หรือการอื่มสุรา
การขาดโฟเลตระหว่างการตั้งครรภ์ส่งผลให้ทารกมีน้ำหนักตัวน้อยอาจพิการหรือแท้งได้ สตรีมีครรภ์จึงควรรับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิกหรือรับประทานโฟเลตเสริมอาหาร
ประโยชน์ของวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ช่วยให้เจริญอาหาร แก้อาการอ่อนเพลีย
- ช่วยป้องกันแผลร้อนในได้
- ช่วยรักษาภาวะซีดหรือโลหิตจาง
- ทำงานออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวด
- ช่วยบำรุงผิวพรรณและสุขภาพ
- ช่วยป้องกันพยาธิในลำไส้และอาการแพ้จากอาหารเป็นพิษ
- ช่วยป้องกันการพิการของเด็กทารกแรกเกิด
- ช่วยในการสร้างน้ำนมของมารดาหลังคลอดบุตร
- ช่วยชะลอให้ผมขาวช้าลง หากรับประทานร่วมกับพาบาและ วิตามินบี 5
- ช่วยลดระดับของกรดอะมิโนโฮโมซิสเทอีนในเลือด
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้
- ช่วยแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้
- เร่งการสลายไขมัน ลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในตับ และในเลือด
- การรับประทานโฟเลต 5 มิลิกรัมต่อวันช่วยลดความดันโลหิตและลดความเสี่ยงของเส้นเลือดในสมองแตก (Stroke)
- เพิ่มประสิทธิภาพของสมอง ความจำระยะสั้น ความคิด การพูด
- ลดการแพ้หอบ หอบหืด มีภูมิคุ้มกันที่ก่ออาการแพ้ (IgE) ในเลือดลดลง
- ช่วยการสร้างสเปิร์มในเพศชาย ในเพศหญิงช่วยให้ไข่แบ่งตัวสมบูรณ์และช่วยการฝังตัวของตัวอ่อน
การขาดวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ทำให้เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
- เป็นโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดแดงแบ่งตัวช้าจึงมีขนาดใหญ่ผิดปกติ (Megaloblastic anemia)
- มีลิ้นแดง
- ผิวหนังอักเสบ ซึด ริมฝีปากแตก
- ระบบประสาทผิดปกติ ความจำเสื่อม
- เกิดอารมณ์แปรปวนง่าย
- เบื่ออาหาร
- กระดูกสันหลังเสื่อม เดินเซ
- หากทารกในครรภ์อายุ 2 เดือนมีโฟลิกต่ำจะส่งผลให้เกิดกระดูกสันหลังโก่ง กระดูกไม่ปิด การสร้างสมองผิดปกติ
- การรับประทาน แอสไพริน ยาคุมกำเนิด ยากันชัก (Phenytoin) ยาลดน้ำตาลในเลือด (Metformin) ยาต้านอักเสบ (Sulfasalazine) ยาขับปัสสาวะ (Triamterene) ยานอนหลับ (Barbiturates) ยาแก้แพ้ภูมิ (Methotrexate) ทำให้โฟเลตลดต่ำ
- ผู้ป่วยลำไส้อักเสบ และผู้ที่สูบบุหรี่จะขาดโฟเลต
- จากการศึกษาพบว่า ในช่วยอายุ 40-70 ปี ผู้ที่ดื่มสุราและขาดโฟเลตจะเป็นมะเร็งลำไส้สูงกว่าผู้ที่รับประทานโฟเลตและกรดอะมิโนเมทไธโอนีน
- ไม่มีรายงานพิษจากการรับประทานโฟเลตมากกว่าปริมาณที่แนะนำเพราะโฟเลตละลายน้ำได้ ส่วนที่เหินจึงถูกขับออกพร้อมกับปัสสาวะ อย่างไรก็ตามการรับประทานโฟเลตมากเกินไปจะทำให้ขาดวิตามินบี 12 ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานโฟเลตเกิน 2 เท่าของปริมาณที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
- พบความสัมพันธ์ว่าการที่ร่างกายมีโฟเลตต่ำ ขาดวิตามินบี 12 และบี 6 จะทำให้กรดอะมิโนโฮโมซีสเทอีน (Homocysteine) สูงมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
แหล่งข้อมูล – คู่มืออาหารเสริมฉบับสมบูรณ์
หากร่างกายได้รับโฟเลตจากอาหารไม่เพียงพอ ก็สามารถรับประทานจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบบเจลได้ พร้อมกับได้รับสารอาหารชนิดอื่นครบเพียงพอต่อวัน ด้วย AGEL MIN
[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section]ตารางแสดงปริมาณโฟเลตในอาหาร
อาหาร | โฟเลต (ไมโครกรัม) |
---|---|
ตับไก่ 1 ขีด | 770 |
ถั่วดำสุก 1/2 ถ้วย | 130 |
หน่อไม้ฝรั่งสุก 5 ยอด | 100 |
ผักโขมสุกครึ่งถ้วย | 100 |
สตรอเบอร์รี่ 8 ผล | 80 |
ข้าวสุกครึ่งถ้วย | 65 |
อะโวคาโดครึ่งผล | 55 |
บรอกโคลีสุกครึ่งถ้วย | 50 |
ส้ม 1 ผล | 40 |
ไข่ 1 ฟอง | 25 |
มะละกอครึ่งถ้วย | 25 |
กล้วย 1 ผล | 20 |
อาหารธัญพืชผสมโฟเลต | 400 |
โฟเลตมีหน้าที่ ช่วยสร้างเซลล์ เนื้อเยื่อ พัฒนาระบบประสาทและสมอง ควบคุมการสร้างสารพันธุกรรม จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายโดยเฉพาะเด็กทารก เด็กก่อนวัยเรียน และเด็กวัยเรียน ป้องกันความผิดปกติของร่างกายระหว่างตั้งครรภ์โดยเฉพาะการสร้างประสาทและสมองปัองกันการแท้ง ช่วยผลิตเม็ดเลือดแดง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ควบคุมความอยากอาหาร บรรเทาอาการซึมเศร้าในผู้สูงอายุ ลดระดับโฮโมซิสเทอีนซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ ลดการเกิดมะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น
ตารางแสดงปริมาณโฟเลตที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
อายุ | โฟเลตที่ต้องการ (ไมโครกรัม) |
---|---|
แรกเกิด-6เดือน | 65 |
6 เดือน-1ปี | 80 |
1-3 ปี | 150 |
4-8 ปี | 200 |
9-13 ปี | 300 |
14 ปี | 400 |
สตรีมีครรภ์ | 600 |
สตรีให้นมบุตร | 500 |
จากตารางจะเห็นได้ว่า อาหารธัญพืชที่ผสมโฟเลตจะมีปริมาณเพียงพอที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน หรือรับประทานตับไก่เพียงครึ่งขีด ก็จะได้รับโฟเลตราว 400 ไมโครกรัมซึ่งเพียงพอต่อร่างกายแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเสริมโฟเลต แต่ยังพบการขาดโฟเลตในคนทั่วไป เนื่องจากการรับประทานอาหารไม่ครบถ้วน การตั้งครรภ์ การดูดซึมผิดปกติ หรือการอื่มสุรา
การขาดโฟเลตระหว่างการตั้งครรภ์ส่งผลให้ทารกมีน้ำหนักตัวน้อยอาจพิการหรือแท้งได้ สตรีมีครรภ์จึงควรรับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิกหรือรับประทานโฟเลตเสริมอาหาร
ประโยชน์ของวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ช่วยให้เจริญอาหาร แก้อาการอ่อนเพลีย
- ช่วยป้องกันแผลร้อนในได้
- ช่วยรักษาภาวะซีดหรือโลหิตจาง
- ทำงานออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวด
- ช่วยบำรุงผิวพรรณและสุขภาพ
- ช่วยป้องกันพยาธิในลำไส้และอาการแพ้จากอาหารเป็นพิษ
- ช่วยป้องกันการพิการของเด็กทารกแรกเกิด
- ช่วยในการสร้างน้ำนมของมารดาหลังคลอดบุตร
- ช่วยชะลอให้ผมขาวช้าลง หากรับประทานร่วมกับพาบาและ วิตามินบี 5
- ช่วยลดระดับของกรดอะมิโนโฮโมซิสเทอีนในเลือด
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้
- ช่วยแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้
- เร่งการสลายไขมัน ลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในตับ และในเลือด
- การรับประทานโฟเลต 5 มิลิกรัมต่อวันช่วยลดความดันโลหิตและลดความเสี่ยงของเส้นเลือดในสมองแตก (Stroke)
- เพิ่มประสิทธิภาพของสมอง ความจำระยะสั้น ความคิด การพูด
- ลดการแพ้หอบ หอบหืด มีภูมิคุ้มกันที่ก่ออาการแพ้ (IgE) ในเลือดลดลง
- ช่วยการสร้างสเปิร์มในเพศชาย ในเพศหญิงช่วยให้ไข่แบ่งตัวสมบูรณ์และช่วยการฝังตัวของตัวอ่อน
การขาดวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ทำให้เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
- เป็นโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดแดงแบ่งตัวช้าจึงมีขนาดใหญ่ผิดปกติ (Megaloblastic anemia)
- มีลิ้นแดง
- ผิวหนังอักเสบ ซึด ริมฝีปากแตก
- ระบบประสาทผิดปกติ ความจำเสื่อม
- เกิดอารมณ์แปรปวนง่าย
- เบื่ออาหาร
- กระดูกสันหลังเสื่อม เดินเซ
- หากทารกในครรภ์อายุ 2 เดือนมีโฟลิกต่ำจะส่งผลให้เกิดกระดูกสันหลังโก่ง กระดูกไม่ปิด การสร้างสมองผิดปกติ
- การรับประทาน แอสไพริน ยาคุมกำเนิด ยากันชัก (Phenytoin) ยาลดน้ำตาลในเลือด (Metformin) ยาต้านอักเสบ (Sulfasalazine) ยาขับปัสสาวะ (Triamterene) ยานอนหลับ (Barbiturates) ยาแก้แพ้ภูมิ (Methotrexate) ทำให้โฟเลตลดต่ำ
- ผู้ป่วยลำไส้อักเสบ และผู้ที่สูบบุหรี่จะขาดโฟเลต
- จากการศึกษาพบว่า ในช่วยอายุ 40-70 ปี ผู้ที่ดื่มสุราและขาดโฟเลตจะเป็นมะเร็งลำไส้สูงกว่าผู้ที่รับประทานโฟเลตและกรดอะมิโนเมทไธโอนีน
- ไม่มีรายงานพิษจากการรับประทานโฟเลตมากกว่าปริมาณที่แนะนำเพราะโฟเลตละลายน้ำได้ ส่วนที่เหินจึงถูกขับออกพร้อมกับปัสสาวะ อย่างไรก็ตามการรับประทานโฟเลตมากเกินไปจะทำให้ขาดวิตามินบี 12 ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานโฟเลตเกิน 2 เท่าของปริมาณที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
- พบความสัมพันธ์ว่าการที่ร่างกายมีโฟเลตต่ำ ขาดวิตามินบี 12 และบี 6 จะทำให้กรดอะมิโนโฮโมซีสเทอีน (Homocysteine) สูงมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
แหล่งข้อมูล – คู่มืออาหารเสริมฉบับสมบูรณ์
หากร่างกายได้รับโฟเลตจากอาหารไม่เพียงพอ ก็สามารถรับประทานจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบบเจลได้ พร้อมกับได้รับสารอาหารชนิดอื่นครบเพียงพอต่อวัน ด้วย AGEL MIN
[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section]- ถั่ว
- ธัญพืช
- ผักใบเขียวเข้ม
- อะโวคาโด
- แคร์รอต
- แคนตาลูป
- ฟักทอง
- เอพริคอต
- กล้วย
- ส้ม
- ผลไม้รสเปรี้ยว (เช่นตระกูลเบอร์รี่)
- ข้าวซ้อมมือ
- แป้งไรย์แบบสีเข้มที่ไม่ผ่านการขัดสี
- ยีสต์
- ตับ
- ไข่
- ไก่
- หมู
ตารางแสดงปริมาณโฟเลตในอาหาร
อาหาร | โฟเลต (ไมโครกรัม) |
---|---|
ตับไก่ 1 ขีด | 770 |
ถั่วดำสุก 1/2 ถ้วย | 130 |
หน่อไม้ฝรั่งสุก 5 ยอด | 100 |
ผักโขมสุกครึ่งถ้วย | 100 |
สตรอเบอร์รี่ 8 ผล | 80 |
ข้าวสุกครึ่งถ้วย | 65 |
อะโวคาโดครึ่งผล | 55 |
บรอกโคลีสุกครึ่งถ้วย | 50 |
ส้ม 1 ผล | 40 |
ไข่ 1 ฟอง | 25 |
มะละกอครึ่งถ้วย | 25 |
กล้วย 1 ผล | 20 |
อาหารธัญพืชผสมโฟเลต | 400 |
โฟเลตมีหน้าที่ ช่วยสร้างเซลล์ เนื้อเยื่อ พัฒนาระบบประสาทและสมอง ควบคุมการสร้างสารพันธุกรรม จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายโดยเฉพาะเด็กทารก เด็กก่อนวัยเรียน และเด็กวัยเรียน ป้องกันความผิดปกติของร่างกายระหว่างตั้งครรภ์โดยเฉพาะการสร้างประสาทและสมองปัองกันการแท้ง ช่วยผลิตเม็ดเลือดแดง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ควบคุมความอยากอาหาร บรรเทาอาการซึมเศร้าในผู้สูงอายุ ลดระดับโฮโมซิสเทอีนซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ ลดการเกิดมะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น
ตารางแสดงปริมาณโฟเลตที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
อายุ | โฟเลตที่ต้องการ (ไมโครกรัม) |
---|---|
แรกเกิด-6เดือน | 65 |
6 เดือน-1ปี | 80 |
1-3 ปี | 150 |
4-8 ปี | 200 |
9-13 ปี | 300 |
14 ปี | 400 |
สตรีมีครรภ์ | 600 |
สตรีให้นมบุตร | 500 |
จากตารางจะเห็นได้ว่า อาหารธัญพืชที่ผสมโฟเลตจะมีปริมาณเพียงพอที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน หรือรับประทานตับไก่เพียงครึ่งขีด ก็จะได้รับโฟเลตราว 400 ไมโครกรัมซึ่งเพียงพอต่อร่างกายแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเสริมโฟเลต แต่ยังพบการขาดโฟเลตในคนทั่วไป เนื่องจากการรับประทานอาหารไม่ครบถ้วน การตั้งครรภ์ การดูดซึมผิดปกติ หรือการอื่มสุรา
การขาดโฟเลตระหว่างการตั้งครรภ์ส่งผลให้ทารกมีน้ำหนักตัวน้อยอาจพิการหรือแท้งได้ สตรีมีครรภ์จึงควรรับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิกหรือรับประทานโฟเลตเสริมอาหาร
ประโยชน์ของวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ช่วยให้เจริญอาหาร แก้อาการอ่อนเพลีย
- ช่วยป้องกันแผลร้อนในได้
- ช่วยรักษาภาวะซีดหรือโลหิตจาง
- ทำงานออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวด
- ช่วยบำรุงผิวพรรณและสุขภาพ
- ช่วยป้องกันพยาธิในลำไส้และอาการแพ้จากอาหารเป็นพิษ
- ช่วยป้องกันการพิการของเด็กทารกแรกเกิด
- ช่วยในการสร้างน้ำนมของมารดาหลังคลอดบุตร
- ช่วยชะลอให้ผมขาวช้าลง หากรับประทานร่วมกับพาบาและ วิตามินบี 5
- ช่วยลดระดับของกรดอะมิโนโฮโมซิสเทอีนในเลือด
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้
- ช่วยแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้
- เร่งการสลายไขมัน ลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในตับ และในเลือด
- การรับประทานโฟเลต 5 มิลิกรัมต่อวันช่วยลดความดันโลหิตและลดความเสี่ยงของเส้นเลือดในสมองแตก (Stroke)
- เพิ่มประสิทธิภาพของสมอง ความจำระยะสั้น ความคิด การพูด
- ลดการแพ้หอบ หอบหืด มีภูมิคุ้มกันที่ก่ออาการแพ้ (IgE) ในเลือดลดลง
- ช่วยการสร้างสเปิร์มในเพศชาย ในเพศหญิงช่วยให้ไข่แบ่งตัวสมบูรณ์และช่วยการฝังตัวของตัวอ่อน
การขาดวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ทำให้เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
- เป็นโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดแดงแบ่งตัวช้าจึงมีขนาดใหญ่ผิดปกติ (Megaloblastic anemia)
- มีลิ้นแดง
- ผิวหนังอักเสบ ซึด ริมฝีปากแตก
- ระบบประสาทผิดปกติ ความจำเสื่อม
- เกิดอารมณ์แปรปวนง่าย
- เบื่ออาหาร
- กระดูกสันหลังเสื่อม เดินเซ
- หากทารกในครรภ์อายุ 2 เดือนมีโฟลิกต่ำจะส่งผลให้เกิดกระดูกสันหลังโก่ง กระดูกไม่ปิด การสร้างสมองผิดปกติ
- การรับประทาน แอสไพริน ยาคุมกำเนิด ยากันชัก (Phenytoin) ยาลดน้ำตาลในเลือด (Metformin) ยาต้านอักเสบ (Sulfasalazine) ยาขับปัสสาวะ (Triamterene) ยานอนหลับ (Barbiturates) ยาแก้แพ้ภูมิ (Methotrexate) ทำให้โฟเลตลดต่ำ
- ผู้ป่วยลำไส้อักเสบ และผู้ที่สูบบุหรี่จะขาดโฟเลต
- จากการศึกษาพบว่า ในช่วยอายุ 40-70 ปี ผู้ที่ดื่มสุราและขาดโฟเลตจะเป็นมะเร็งลำไส้สูงกว่าผู้ที่รับประทานโฟเลตและกรดอะมิโนเมทไธโอนีน
- ไม่มีรายงานพิษจากการรับประทานโฟเลตมากกว่าปริมาณที่แนะนำเพราะโฟเลตละลายน้ำได้ ส่วนที่เหินจึงถูกขับออกพร้อมกับปัสสาวะ อย่างไรก็ตามการรับประทานโฟเลตมากเกินไปจะทำให้ขาดวิตามินบี 12 ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานโฟเลตเกิน 2 เท่าของปริมาณที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
- พบความสัมพันธ์ว่าการที่ร่างกายมีโฟเลตต่ำ ขาดวิตามินบี 12 และบี 6 จะทำให้กรดอะมิโนโฮโมซีสเทอีน (Homocysteine) สูงมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
แหล่งข้อมูล – คู่มืออาหารเสริมฉบับสมบูรณ์
หากร่างกายได้รับโฟเลตจากอาหารไม่เพียงพอ ก็สามารถรับประทานจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบบเจลได้ พร้อมกับได้รับสารอาหารชนิดอื่นครบเพียงพอต่อวัน ด้วย AGEL MIN
[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section]แหล่งที่มาของ วิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ถั่ว
- ธัญพืช
- ผักใบเขียวเข้ม
- อะโวคาโด
- แคร์รอต
- แคนตาลูป
- ฟักทอง
- เอพริคอต
- กล้วย
- ส้ม
- ผลไม้รสเปรี้ยว (เช่นตระกูลเบอร์รี่)
- ข้าวซ้อมมือ
- แป้งไรย์แบบสีเข้มที่ไม่ผ่านการขัดสี
- ยีสต์
- ตับ
- ไข่
- ไก่
- หมู
ตารางแสดงปริมาณโฟเลตในอาหาร
อาหาร | โฟเลต (ไมโครกรัม) |
---|---|
ตับไก่ 1 ขีด | 770 |
ถั่วดำสุก 1/2 ถ้วย | 130 |
หน่อไม้ฝรั่งสุก 5 ยอด | 100 |
ผักโขมสุกครึ่งถ้วย | 100 |
สตรอเบอร์รี่ 8 ผล | 80 |
ข้าวสุกครึ่งถ้วย | 65 |
อะโวคาโดครึ่งผล | 55 |
บรอกโคลีสุกครึ่งถ้วย | 50 |
ส้ม 1 ผล | 40 |
ไข่ 1 ฟอง | 25 |
มะละกอครึ่งถ้วย | 25 |
กล้วย 1 ผล | 20 |
อาหารธัญพืชผสมโฟเลต | 400 |
โฟเลตมีหน้าที่ ช่วยสร้างเซลล์ เนื้อเยื่อ พัฒนาระบบประสาทและสมอง ควบคุมการสร้างสารพันธุกรรม จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายโดยเฉพาะเด็กทารก เด็กก่อนวัยเรียน และเด็กวัยเรียน ป้องกันความผิดปกติของร่างกายระหว่างตั้งครรภ์โดยเฉพาะการสร้างประสาทและสมองปัองกันการแท้ง ช่วยผลิตเม็ดเลือดแดง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ควบคุมความอยากอาหาร บรรเทาอาการซึมเศร้าในผู้สูงอายุ ลดระดับโฮโมซิสเทอีนซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ ลดการเกิดมะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น
ตารางแสดงปริมาณโฟเลตที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
อายุ | โฟเลตที่ต้องการ (ไมโครกรัม) |
---|---|
แรกเกิด-6เดือน | 65 |
6 เดือน-1ปี | 80 |
1-3 ปี | 150 |
4-8 ปี | 200 |
9-13 ปี | 300 |
14 ปี | 400 |
สตรีมีครรภ์ | 600 |
สตรีให้นมบุตร | 500 |
จากตารางจะเห็นได้ว่า อาหารธัญพืชที่ผสมโฟเลตจะมีปริมาณเพียงพอที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน หรือรับประทานตับไก่เพียงครึ่งขีด ก็จะได้รับโฟเลตราว 400 ไมโครกรัมซึ่งเพียงพอต่อร่างกายแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเสริมโฟเลต แต่ยังพบการขาดโฟเลตในคนทั่วไป เนื่องจากการรับประทานอาหารไม่ครบถ้วน การตั้งครรภ์ การดูดซึมผิดปกติ หรือการอื่มสุรา
การขาดโฟเลตระหว่างการตั้งครรภ์ส่งผลให้ทารกมีน้ำหนักตัวน้อยอาจพิการหรือแท้งได้ สตรีมีครรภ์จึงควรรับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิกหรือรับประทานโฟเลตเสริมอาหาร
ประโยชน์ของวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ช่วยให้เจริญอาหาร แก้อาการอ่อนเพลีย
- ช่วยป้องกันแผลร้อนในได้
- ช่วยรักษาภาวะซีดหรือโลหิตจาง
- ทำงานออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวด
- ช่วยบำรุงผิวพรรณและสุขภาพ
- ช่วยป้องกันพยาธิในลำไส้และอาการแพ้จากอาหารเป็นพิษ
- ช่วยป้องกันการพิการของเด็กทารกแรกเกิด
- ช่วยในการสร้างน้ำนมของมารดาหลังคลอดบุตร
- ช่วยชะลอให้ผมขาวช้าลง หากรับประทานร่วมกับพาบาและ วิตามินบี 5
- ช่วยลดระดับของกรดอะมิโนโฮโมซิสเทอีนในเลือด
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้
- ช่วยแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้
- เร่งการสลายไขมัน ลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในตับ และในเลือด
- การรับประทานโฟเลต 5 มิลิกรัมต่อวันช่วยลดความดันโลหิตและลดความเสี่ยงของเส้นเลือดในสมองแตก (Stroke)
- เพิ่มประสิทธิภาพของสมอง ความจำระยะสั้น ความคิด การพูด
- ลดการแพ้หอบ หอบหืด มีภูมิคุ้มกันที่ก่ออาการแพ้ (IgE) ในเลือดลดลง
- ช่วยการสร้างสเปิร์มในเพศชาย ในเพศหญิงช่วยให้ไข่แบ่งตัวสมบูรณ์และช่วยการฝังตัวของตัวอ่อน
การขาดวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ทำให้เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
- เป็นโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดแดงแบ่งตัวช้าจึงมีขนาดใหญ่ผิดปกติ (Megaloblastic anemia)
- มีลิ้นแดง
- ผิวหนังอักเสบ ซึด ริมฝีปากแตก
- ระบบประสาทผิดปกติ ความจำเสื่อม
- เกิดอารมณ์แปรปวนง่าย
- เบื่ออาหาร
- กระดูกสันหลังเสื่อม เดินเซ
- หากทารกในครรภ์อายุ 2 เดือนมีโฟลิกต่ำจะส่งผลให้เกิดกระดูกสันหลังโก่ง กระดูกไม่ปิด การสร้างสมองผิดปกติ
- การรับประทาน แอสไพริน ยาคุมกำเนิด ยากันชัก (Phenytoin) ยาลดน้ำตาลในเลือด (Metformin) ยาต้านอักเสบ (Sulfasalazine) ยาขับปัสสาวะ (Triamterene) ยานอนหลับ (Barbiturates) ยาแก้แพ้ภูมิ (Methotrexate) ทำให้โฟเลตลดต่ำ
- ผู้ป่วยลำไส้อักเสบ และผู้ที่สูบบุหรี่จะขาดโฟเลต
- จากการศึกษาพบว่า ในช่วยอายุ 40-70 ปี ผู้ที่ดื่มสุราและขาดโฟเลตจะเป็นมะเร็งลำไส้สูงกว่าผู้ที่รับประทานโฟเลตและกรดอะมิโนเมทไธโอนีน
- ไม่มีรายงานพิษจากการรับประทานโฟเลตมากกว่าปริมาณที่แนะนำเพราะโฟเลตละลายน้ำได้ ส่วนที่เหินจึงถูกขับออกพร้อมกับปัสสาวะ อย่างไรก็ตามการรับประทานโฟเลตมากเกินไปจะทำให้ขาดวิตามินบี 12 ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานโฟเลตเกิน 2 เท่าของปริมาณที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
- พบความสัมพันธ์ว่าการที่ร่างกายมีโฟเลตต่ำ ขาดวิตามินบี 12 และบี 6 จะทำให้กรดอะมิโนโฮโมซีสเทอีน (Homocysteine) สูงมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
แหล่งข้อมูล – คู่มืออาหารเสริมฉบับสมบูรณ์
หากร่างกายได้รับโฟเลตจากอาหารไม่เพียงพอ ก็สามารถรับประทานจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบบเจลได้ พร้อมกับได้รับสารอาหารชนิดอื่นครบเพียงพอต่อวัน ด้วย AGEL MIN
[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section]วิตามินบี 9 (โฟเลต)
วิตามินบี 9 หรือโฟเลต เป็นวิตามินในกลุ่มวิตามินบี ซึ่งเป็นวิตามินประเภทละลายในน้ำ อาจเรียกว่า วิตามินบี 9 หรือวิตามินเอ็ม โฟเลตพบได้ในอาหารทั่วไป โดยเฉพาะผักจะมีมาก ผักชนิดแรกที่พบคือ ใบโฟเลียม (Folium leaf) จึงนำมาตั้งเป็นชื่อของวิตามินโฟเลต ซึ่งในธรรมชาติจะอยู่ในรูปของโฟเลต หากอยู่ในรูปสังเคราะห์จะอยู่ในรูปกรดโฟเลต
แหล่งที่มาของ วิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ถั่ว
- ธัญพืช
- ผักใบเขียวเข้ม
- อะโวคาโด
- แคร์รอต
- แคนตาลูป
- ฟักทอง
- เอพริคอต
- กล้วย
- ส้ม
- ผลไม้รสเปรี้ยว (เช่นตระกูลเบอร์รี่)
- ข้าวซ้อมมือ
- แป้งไรย์แบบสีเข้มที่ไม่ผ่านการขัดสี
- ยีสต์
- ตับ
- ไข่
- ไก่
- หมู
ตารางแสดงปริมาณโฟเลตในอาหาร
อาหาร | โฟเลต (ไมโครกรัม) |
---|---|
ตับไก่ 1 ขีด | 770 |
ถั่วดำสุก 1/2 ถ้วย | 130 |
หน่อไม้ฝรั่งสุก 5 ยอด | 100 |
ผักโขมสุกครึ่งถ้วย | 100 |
สตรอเบอร์รี่ 8 ผล | 80 |
ข้าวสุกครึ่งถ้วย | 65 |
อะโวคาโดครึ่งผล | 55 |
บรอกโคลีสุกครึ่งถ้วย | 50 |
ส้ม 1 ผล | 40 |
ไข่ 1 ฟอง | 25 |
มะละกอครึ่งถ้วย | 25 |
กล้วย 1 ผล | 20 |
อาหารธัญพืชผสมโฟเลต | 400 |
โฟเลตมีหน้าที่ ช่วยสร้างเซลล์ เนื้อเยื่อ พัฒนาระบบประสาทและสมอง ควบคุมการสร้างสารพันธุกรรม จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายโดยเฉพาะเด็กทารก เด็กก่อนวัยเรียน และเด็กวัยเรียน ป้องกันความผิดปกติของร่างกายระหว่างตั้งครรภ์โดยเฉพาะการสร้างประสาทและสมองปัองกันการแท้ง ช่วยผลิตเม็ดเลือดแดง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ควบคุมความอยากอาหาร บรรเทาอาการซึมเศร้าในผู้สูงอายุ ลดระดับโฮโมซิสเทอีนซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ ลดการเกิดมะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น
ตารางแสดงปริมาณโฟเลตที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
อายุ | โฟเลตที่ต้องการ (ไมโครกรัม) |
---|---|
แรกเกิด-6เดือน | 65 |
6 เดือน-1ปี | 80 |
1-3 ปี | 150 |
4-8 ปี | 200 |
9-13 ปี | 300 |
14 ปี | 400 |
สตรีมีครรภ์ | 600 |
สตรีให้นมบุตร | 500 |
จากตารางจะเห็นได้ว่า อาหารธัญพืชที่ผสมโฟเลตจะมีปริมาณเพียงพอที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน หรือรับประทานตับไก่เพียงครึ่งขีด ก็จะได้รับโฟเลตราว 400 ไมโครกรัมซึ่งเพียงพอต่อร่างกายแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเสริมโฟเลต แต่ยังพบการขาดโฟเลตในคนทั่วไป เนื่องจากการรับประทานอาหารไม่ครบถ้วน การตั้งครรภ์ การดูดซึมผิดปกติ หรือการอื่มสุรา
การขาดโฟเลตระหว่างการตั้งครรภ์ส่งผลให้ทารกมีน้ำหนักตัวน้อยอาจพิการหรือแท้งได้ สตรีมีครรภ์จึงควรรับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิกหรือรับประทานโฟเลตเสริมอาหาร
ประโยชน์ของวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ช่วยให้เจริญอาหาร แก้อาการอ่อนเพลีย
- ช่วยป้องกันแผลร้อนในได้
- ช่วยรักษาภาวะซีดหรือโลหิตจาง
- ทำงานออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวด
- ช่วยบำรุงผิวพรรณและสุขภาพ
- ช่วยป้องกันพยาธิในลำไส้และอาการแพ้จากอาหารเป็นพิษ
- ช่วยป้องกันการพิการของเด็กทารกแรกเกิด
- ช่วยในการสร้างน้ำนมของมารดาหลังคลอดบุตร
- ช่วยชะลอให้ผมขาวช้าลง หากรับประทานร่วมกับพาบาและ วิตามินบี 5
- ช่วยลดระดับของกรดอะมิโนโฮโมซิสเทอีนในเลือด
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้
- ช่วยแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้
- เร่งการสลายไขมัน ลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในตับ และในเลือด
- การรับประทานโฟเลต 5 มิลิกรัมต่อวันช่วยลดความดันโลหิตและลดความเสี่ยงของเส้นเลือดในสมองแตก (Stroke)
- เพิ่มประสิทธิภาพของสมอง ความจำระยะสั้น ความคิด การพูด
- ลดการแพ้หอบ หอบหืด มีภูมิคุ้มกันที่ก่ออาการแพ้ (IgE) ในเลือดลดลง
- ช่วยการสร้างสเปิร์มในเพศชาย ในเพศหญิงช่วยให้ไข่แบ่งตัวสมบูรณ์และช่วยการฝังตัวของตัวอ่อน
การขาดวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ทำให้เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
- เป็นโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดแดงแบ่งตัวช้าจึงมีขนาดใหญ่ผิดปกติ (Megaloblastic anemia)
- มีลิ้นแดง
- ผิวหนังอักเสบ ซึด ริมฝีปากแตก
- ระบบประสาทผิดปกติ ความจำเสื่อม
- เกิดอารมณ์แปรปวนง่าย
- เบื่ออาหาร
- กระดูกสันหลังเสื่อม เดินเซ
- หากทารกในครรภ์อายุ 2 เดือนมีโฟลิกต่ำจะส่งผลให้เกิดกระดูกสันหลังโก่ง กระดูกไม่ปิด การสร้างสมองผิดปกติ
- การรับประทาน แอสไพริน ยาคุมกำเนิด ยากันชัก (Phenytoin) ยาลดน้ำตาลในเลือด (Metformin) ยาต้านอักเสบ (Sulfasalazine) ยาขับปัสสาวะ (Triamterene) ยานอนหลับ (Barbiturates) ยาแก้แพ้ภูมิ (Methotrexate) ทำให้โฟเลตลดต่ำ
- ผู้ป่วยลำไส้อักเสบ และผู้ที่สูบบุหรี่จะขาดโฟเลต
- จากการศึกษาพบว่า ในช่วยอายุ 40-70 ปี ผู้ที่ดื่มสุราและขาดโฟเลตจะเป็นมะเร็งลำไส้สูงกว่าผู้ที่รับประทานโฟเลตและกรดอะมิโนเมทไธโอนีน
- ไม่มีรายงานพิษจากการรับประทานโฟเลตมากกว่าปริมาณที่แนะนำเพราะโฟเลตละลายน้ำได้ ส่วนที่เหินจึงถูกขับออกพร้อมกับปัสสาวะ อย่างไรก็ตามการรับประทานโฟเลตมากเกินไปจะทำให้ขาดวิตามินบี 12 ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานโฟเลตเกิน 2 เท่าของปริมาณที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
- พบความสัมพันธ์ว่าการที่ร่างกายมีโฟเลตต่ำ ขาดวิตามินบี 12 และบี 6 จะทำให้กรดอะมิโนโฮโมซีสเทอีน (Homocysteine) สูงมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
แหล่งข้อมูล – คู่มืออาหารเสริมฉบับสมบูรณ์
หากร่างกายได้รับโฟเลตจากอาหารไม่เพียงพอ ก็สามารถรับประทานจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบบเจลได้ พร้อมกับได้รับสารอาหารชนิดอื่นครบเพียงพอต่อวัน ด้วย AGEL MIN
[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section]วิตามินบี 9 (โฟเลต)
วิตามินบี 9 หรือโฟเลต เป็นวิตามินในกลุ่มวิตามินบี ซึ่งเป็นวิตามินประเภทละลายในน้ำ อาจเรียกว่า วิตามินบี 9 หรือวิตามินเอ็ม โฟเลตพบได้ในอาหารทั่วไป โดยเฉพาะผักจะมีมาก ผักชนิดแรกที่พบคือ ใบโฟเลียม (Folium leaf) จึงนำมาตั้งเป็นชื่อของวิตามินโฟเลต ซึ่งในธรรมชาติจะอยู่ในรูปของโฟเลต หากอยู่ในรูปสังเคราะห์จะอยู่ในรูปกรดโฟเลต
แหล่งที่มาของ วิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ถั่ว
- ธัญพืช
- ผักใบเขียวเข้ม
- อะโวคาโด
- แคร์รอต
- แคนตาลูป
- ฟักทอง
- เอพริคอต
- กล้วย
- ส้ม
- ผลไม้รสเปรี้ยว (เช่นตระกูลเบอร์รี่)
- ข้าวซ้อมมือ
- แป้งไรย์แบบสีเข้มที่ไม่ผ่านการขัดสี
- ยีสต์
- ตับ
- ไข่
- ไก่
- หมู
ตารางแสดงปริมาณโฟเลตในอาหาร
อาหาร | โฟเลต (ไมโครกรัม) |
---|---|
ตับไก่ 1 ขีด | 770 |
ถั่วดำสุก 1/2 ถ้วย | 130 |
หน่อไม้ฝรั่งสุก 5 ยอด | 100 |
ผักโขมสุกครึ่งถ้วย | 100 |
สตรอเบอร์รี่ 8 ผล | 80 |
ข้าวสุกครึ่งถ้วย | 65 |
อะโวคาโดครึ่งผล | 55 |
บรอกโคลีสุกครึ่งถ้วย | 50 |
ส้ม 1 ผล | 40 |
ไข่ 1 ฟอง | 25 |
มะละกอครึ่งถ้วย | 25 |
กล้วย 1 ผล | 20 |
อาหารธัญพืชผสมโฟเลต | 400 |
โฟเลตมีหน้าที่ ช่วยสร้างเซลล์ เนื้อเยื่อ พัฒนาระบบประสาทและสมอง ควบคุมการสร้างสารพันธุกรรม จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกายโดยเฉพาะเด็กทารก เด็กก่อนวัยเรียน และเด็กวัยเรียน ป้องกันความผิดปกติของร่างกายระหว่างตั้งครรภ์โดยเฉพาะการสร้างประสาทและสมองปัองกันการแท้ง ช่วยผลิตเม็ดเลือดแดง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ควบคุมความอยากอาหาร บรรเทาอาการซึมเศร้าในผู้สูงอายุ ลดระดับโฮโมซิสเทอีนซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่เพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจ ลดการเกิดมะเร็งลำไส้ มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งปากมดลูก เป็นต้น
ตารางแสดงปริมาณโฟเลตที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
อายุ | โฟเลตที่ต้องการ (ไมโครกรัม) |
---|---|
แรกเกิด-6เดือน | 65 |
6 เดือน-1ปี | 80 |
1-3 ปี | 150 |
4-8 ปี | 200 |
9-13 ปี | 300 |
14 ปี | 400 |
สตรีมีครรภ์ | 600 |
สตรีให้นมบุตร | 500 |
จากตารางจะเห็นได้ว่า อาหารธัญพืชที่ผสมโฟเลตจะมีปริมาณเพียงพอที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน หรือรับประทานตับไก่เพียงครึ่งขีด ก็จะได้รับโฟเลตราว 400 ไมโครกรัมซึ่งเพียงพอต่อร่างกายแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเสริมโฟเลต แต่ยังพบการขาดโฟเลตในคนทั่วไป เนื่องจากการรับประทานอาหารไม่ครบถ้วน การตั้งครรภ์ การดูดซึมผิดปกติ หรือการอื่มสุรา
การขาดโฟเลตระหว่างการตั้งครรภ์ส่งผลให้ทารกมีน้ำหนักตัวน้อยอาจพิการหรือแท้งได้ สตรีมีครรภ์จึงควรรับประทานอาหารที่มีกรดโฟลิกหรือรับประทานโฟเลตเสริมอาหาร
ประโยชน์ของวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ช่วยให้เจริญอาหาร แก้อาการอ่อนเพลีย
- ช่วยป้องกันแผลร้อนในได้
- ช่วยรักษาภาวะซีดหรือโลหิตจาง
- ทำงานออกฤทธิ์คล้ายยาแก้ปวด
- ช่วยบำรุงผิวพรรณและสุขภาพ
- ช่วยป้องกันพยาธิในลำไส้และอาการแพ้จากอาหารเป็นพิษ
- ช่วยป้องกันการพิการของเด็กทารกแรกเกิด
- ช่วยในการสร้างน้ำนมของมารดาหลังคลอดบุตร
- ช่วยชะลอให้ผมขาวช้าลง หากรับประทานร่วมกับพาบาและ วิตามินบี 5
- ช่วยลดระดับของกรดอะมิโนโฮโมซิสเทอีนในเลือด
- ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจได้
- ช่วยแก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอได้
- เร่งการสลายไขมัน ลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในตับ และในเลือด
- การรับประทานโฟเลต 5 มิลิกรัมต่อวันช่วยลดความดันโลหิตและลดความเสี่ยงของเส้นเลือดในสมองแตก (Stroke)
- เพิ่มประสิทธิภาพของสมอง ความจำระยะสั้น ความคิด การพูด
- ลดการแพ้หอบ หอบหืด มีภูมิคุ้มกันที่ก่ออาการแพ้ (IgE) ในเลือดลดลง
- ช่วยการสร้างสเปิร์มในเพศชาย ในเพศหญิงช่วยให้ไข่แบ่งตัวสมบูรณ์และช่วยการฝังตัวของตัวอ่อน
การขาดวิตามินบี 9 (โฟเลต)
- ทำให้เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย
- เป็นโลหิตจางชนิดเม็ดเลือดแดงแบ่งตัวช้าจึงมีขนาดใหญ่ผิดปกติ (Megaloblastic anemia)
- มีลิ้นแดง
- ผิวหนังอักเสบ ซึด ริมฝีปากแตก
- ระบบประสาทผิดปกติ ความจำเสื่อม
- เกิดอารมณ์แปรปวนง่าย
- เบื่ออาหาร
- กระดูกสันหลังเสื่อม เดินเซ
- หากทารกในครรภ์อายุ 2 เดือนมีโฟลิกต่ำจะส่งผลให้เกิดกระดูกสันหลังโก่ง กระดูกไม่ปิด การสร้างสมองผิดปกติ
- การรับประทาน แอสไพริน ยาคุมกำเนิด ยากันชัก (Phenytoin) ยาลดน้ำตาลในเลือด (Metformin) ยาต้านอักเสบ (Sulfasalazine) ยาขับปัสสาวะ (Triamterene) ยานอนหลับ (Barbiturates) ยาแก้แพ้ภูมิ (Methotrexate) ทำให้โฟเลตลดต่ำ
- ผู้ป่วยลำไส้อักเสบ และผู้ที่สูบบุหรี่จะขาดโฟเลต
- จากการศึกษาพบว่า ในช่วยอายุ 40-70 ปี ผู้ที่ดื่มสุราและขาดโฟเลตจะเป็นมะเร็งลำไส้สูงกว่าผู้ที่รับประทานโฟเลตและกรดอะมิโนเมทไธโอนีน
- ไม่มีรายงานพิษจากการรับประทานโฟเลตมากกว่าปริมาณที่แนะนำเพราะโฟเลตละลายน้ำได้ ส่วนที่เหินจึงถูกขับออกพร้อมกับปัสสาวะ อย่างไรก็ตามการรับประทานโฟเลตมากเกินไปจะทำให้ขาดวิตามินบี 12 ดังนั้นจึงไม่ควรรับประทานโฟเลตเกิน 2 เท่าของปริมาณที่ร่างกายต้องการใน 1 วัน
- พบความสัมพันธ์ว่าการที่ร่างกายมีโฟเลตต่ำ ขาดวิตามินบี 12 และบี 6 จะทำให้กรดอะมิโนโฮโมซีสเทอีน (Homocysteine) สูงมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
แหล่งข้อมูล – คู่มืออาหารเสริมฉบับสมบูรณ์
หากร่างกายได้รับโฟเลตจากอาหารไม่เพียงพอ ก็สามารถรับประทานจากผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร แบบเจลได้ พร้อมกับได้รับสารอาหารชนิดอื่นครบเพียงพอต่อวัน ด้วย AGEL MIN
[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section]
0 Comments